คมชัดลึก :อ่า! คนธรรมดาย่อมมีความกลัวตาย ยิ่งเป็นพวกที่กลุ้มรุมทำร้ายคนอื่นด้วยอาวุธสงครามถึงบาดเจ็บล้มตายกลางเมือง ขณะที่ปากอ้างว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยวิธีสันติ อหิงสา แต่ประกาศตั้งค่าหัวผู้นำประเทศสูงถึง 10 ล้านบาท นี่แสดงให้เห็นการยกระดับของการไร้มาตรฐานชัดเจน!
จากกุ๊ยรับจ้างจัดม็อบชุมนุม สู้เพื่อรวย แบบธรรมดา สะสมได้เงินมากแล้ว ก็ยกระดับให้เป็นกบฏ ก่อการร้าย ด้วยสงครามทุกรูปแบบ หวังล้มรัฐบาลเต็มสูบ
ความอหังการของแกนนำมวลชนเสื้อแดงถึงขั้นล้มฟ้า พลิกแผ่นดินครั้งนี้ มีการปฏิบัติการด้วยกองกำลังติดอาวุธ มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายชัดเจน โดยสื่อต่างชาติ และมีช่างภาพญี่ปุ่นต้องสังเวยชีวิตให้ผู้ก่อการร้ายโหดเหี้ยม แกนนำเสื้อแดงเหิมเกริมหนัก หลังจากประกาศชัยชนะในการรบ เมื่อเห็นความหายนะ มีสื่อแดงหลายฉบับเป็นตัวช่วยด้านสื่อ กระพือข่าวตีรัฐบาล
กองทัพไม่เคยสูญเสียมากเท่านี้ เพราะระดับผู้คุมกำลังถูกจัดการหลายคน เป็นการล็อกเป้าให้หน่วยสังหารระดมถล่มด้วยปืนยิงระเบิดและพลซุ่มยิง แกนนำเสื้อแดงร่าเริง ตั้งเงื่อนไขให้นายกฯ อภิสิทธิ์ต้องเดินทางออกนอกประเทศ เป็นเงื่อนไขเดียวหลังจากให้ยุบสภา ลาออก และตั้งข้อหาทรราชให้ด้วย
ได้ทีขี่แพะไล่ นึกว่าเสร็จแน่ ปลุกกระแสมวลชน ทำสารพัด ทั้งชิงศพมาโชว์ แห่โลงรอบเมือง นึกว่าเป็นความโก้ แสดงให้เห็นความเป็นนักปฏิวัติประชาธิปไตย
การเอาศพ แบกโลงศพไปตีกิน ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาน่ารังเกียจขยะแขยง แกนนำมีคดีติดตัว ประวัติมัวหมอง เป็นกลุ่มคนซึ่งมีสมุนเป็นพวกเถื่อนถ่อย อันธพาล แกนนำมีทั้งอดีตคอมมิวนิสต์ และยังเป็นแดงอยู่เต็มร้อย นักร้อง ดาวตลก ดาวโจ๊ก หมอนวด รวมกันเป็นขบวนการเดนคน รับจ้างจัดม็อบหลอกเอาเงินคนหนีคุก นึกว่าการรบกลางถนนราชดำเนินและการประโคมว่าทหารฆ่าประชาชนจะสำเร็จ ล้มรัฐบาลได้ กลายเป็นว่ากองกำลังกบฏ โจรก่อการร้าย ฆ่าทหาร ทำให้กระแสตีกลับ ชาวบ้านรู้ว่าพวกแกนนำม็อบแดงเป็นพวกก่อการร้าย ก็เริ่มกลัวตายเพราะระดมคนล้มรัฐบาลไม่ได้ตามแผน นายกฯ อภิสิทธิ์ยังยื้อสู้ต่อไป แม้จะมีทหารแตงโมและพวกปอดแหกหวังอยู่สบาย ไส้ศึกปนอยู่ด้วยก็ตาม!
นอกจากระดมคนไม่ได้ตามแผน ยังมีข่าวลือสารพัด เช่น การ “รัฐประหาร” ล้มรัฐบาล โดยทหารบางกลุ่มซึ่งมองว่าการรัฐประหารเป็นทางออกแบบเบ็ดเสร็จ ถ้ารัฐประหาร พวกเสื้อแดงออกมาต่อต้าน ก็จะจัดการให้เต็มที่! แต่ที่พวกแกนนำเสื้อแดงกลัวมากคือการ “เอาคืน” ของทหารบางกลุ่มที่สุดแค้นเพราะถูกทำร้ายฝ่ายเดียวโดยกองกำลังกบฏเสื้อแดงขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่บ้าคลั่ง โดยการปลุกระดมต่อเนื่องโดย “ทักษิณ” คนหนีคุก
การ “เอาคืน” คงไม่ได้หมายความว่าจะเรียกตัวแกนนำ 24 คน มีหมายจับไปจับเข่าคุย ขอร้องให้เลิกการชุมนุม ด้วยถ้อยคำของนายแสนดี วจีไพเราะ แต่คงจะคุยด้วยห่ากระสุนปืน ถ้าการบุกเข้ารวบตัวตามหมายจับถูกต่อต้าน เพราะการจับกุมพวกกบฏ ก่อการร้าย ย่อมต้องไม่ใช้วิธีธรรมดา อย่านึกว่าถ้าเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จะเข้าไปมือเปล่า!
การย้ายมวลชนที่ร่อยหรอจากการยุบเวทีสะพานผ่านฟ้าฯ หนีตายเข้าไปรวมกันที่สี่แยกราชประสงค์ คงนึกว่าจะใช้โล่มนุษย์และห้างร้านเป็นที่กำบัง ใช้เป็นตัวประกัน ไม่ให้ “กองกำลังฝ่ายตรงข้ามกับเสื้อแดง” เข้าปฏิบัติการ เพราะการ “เอาคืน” นั้น ย่อมมีหนทางเดียวสำหรับแกนนำคือ เข้าไปอยู่ในโลงศพที่เตรียมไว้สำหรับตัวเอง หลังจากนำไปแห่รอบเมืองเพื่อปลุกกระแส ถึงคราวกลัวตาย ย่อมรู้ว่าชีวิตของตัวเองถูกจำกัดทั้งความเคลื่อนไหว และระยะเวลาสำหรับการมีลมหายใจ แม้จะออกไปไกลจากเวทีก็ยังยากเสียแล้ว มีหนทางเดียวคือพยายามหลบหนีออกไปนอกประเทศ โดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ ถ้ารอดตาย คงไม่มีโอกาสได้เดินบนถนนอีกแล้ว
การกวาดล้างต้องรวมพวกนายทุนจ่ายเงินให้พวกกบฏก่อการร้าย พวก ส.ส.พรรคเพื่อคนหนีคุก ซึ่งเคยขึ้นเวที สนับสนุนขบวนการล้มรัฐบาล ที่สำคัญคือเครือข่ายครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องคนหนีคุก ซึ่งทุ่มเงินล้มล้างรัฐบาลอย่างเปิดเผย เล็งผลเลิศ นึกว่าศึกล้มเมืองครั้งนี้จะสำเร็จ การไปชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์แห่งเดียว อาจมองว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ แต่ก็เป็นจุดอ่อนอย่างมาก เพราะได้สร้างความไม่พอใจ ความแค้นให้คนกรุง ถ้าต้องการหนีก็ยาก โดนปิดล้อมก็ง่าย และถ้าเกิดความเสียหายคือนักธุรกิจส่วนหนึ่งคือบรรดาสปอนเซอร์กบฏก่อการร้ายเสื้อแดงนั่นเอง
กองกำลังฝ่ายตรงกันข้าม ถ้าถึงเวลาต้องเอาคืนแกนนำ ต้องเตือนให้ชาวบ้านธรรมดาไปให้พ้นจากพื้นที่ ให้เหลือสำหรับพวกฮาร์ดคอร์ หรือพวกอันธพาล ซึ่งพร้อมจะโดนทั้งลูกจริง และลูกหลงจากการปฏิบัติการ ถึงเวลา อย่ามาร้องว่าไม่เตือนนิ! อิอิอิ!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น